วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

ข้อแตกต่างของ เกียรติบัตร, วุฒิบัตร, ปริญญาบัตร, และประกาศนียบัตร

เกียรติบัตร
    คำเรียกบัตรที่มอบให้แก่บุคคล เพื่อแสดงว่าเป็นผู้ที่สมควรได้รับเกียรติ ได้รับการยกย่อง
    อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เกียรติบัตรรับรองการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีคุณประโยชน์ เกียรติบัตร
    ที่มอบให้แก่บุคคลที่ได้ประกอบกิจกรรมที่น่าสรรเสริญ เช่น เป็นบุคคลดีเด่นในด้านใด
    ด้านหนึ่งจนเป็นที่น่ายกย่อง เป็นต้น   นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าร่วมประกวดหรือเข้าร่วมการแข่งขัน
    ความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง หรือการปฏิบัติกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ย่อมสมควรได้รับ
    เกียรติบัตรรับรองการเข้าร่วมกิจกรรมนั้นๆ ด้วย
วุฒิบัตร
    เป็นบัตรที่มอบให้แก่บุคคล เพื่อรองรับว่าเป็นผู้มีวุฒิ ความสามารถในการปฏิบัติงาน หรือ
    ความสามารถอื่นๆ ที่ได้จากการอบรม โดยผู้มอบวุฒิบัตรอาจเป็นผู้รับผิดชอบจัดการอบรม
    ขึ้นมาก็ได้ เช่น การอบรมวิชาการต่างๆ ให้แก่ครูอาจารย์ผู้สอนวิชานั่นๆ หรือแก่บุคคลทั่วไป
    การอบรมการทำอาหาร การอบรมศิลปะการจัดดอกไม้ เป็นต้น
ปริญญาบัตร
    เป็นเอกสารรับรองวิทยฐานะของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญา
ประกาศนียบัตร
    เอกสารที่แสดงวิทยาฐานะของผู้สำเร็จการศึกษา ที่จัดขึ้นเป็นหลักสูตรสำหรับการศึกษา
    ที่มีระดับต่ำกว่าระดับปริญญา

ประวัติการพิมพ์

เมื่อประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล ชาวอียิปต์นั้นมีความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดี
พวกเขารู้จักการเขียนหนังสือลงบนแผ่นกระดาษ ซึ่งทำมาจากต้นปาพีรัส (papyrus) นั่นเอง
โดยจะนำมาทำเป็นกระดาษม้วนๆ เรียกกันว่า Volumen หรือ Volume

ต่อมา 400 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนได้เรียนเขียนหนังสือลงบนผ้าไหม หลังจากนั้นประมาณ
255 ปีก่อนคริสตกาล ชาวจีนได้รู้จักการแกะสลักบนแผ่นหิน กระดูกสัตว์ งาช้าง แล้วนำไป
ประดิษฐ์บนขี้ผึ้งหรือดินเหนียว และได้ใช้แพร่ขยายไปถึงเอเชียตอนกลาง วิธีการทำที่ว่านี้
นับได้ว่าเป็นต้นตอของการพิมพ์ หรือเป็นแม่พิมพ์แบบตัวนูน (letter press) นั่นเอง

ลำดับวิวัฒนาการของการพิมพ์ (พอสังเขป)
ค.ศ. 105
    ชาวจีนได้ทำกระดาษไข ถือเป็นวัสดุสำคุญที่ใช้ในการเขียนและการพิมพ์
ค.ศ. 175
    ชาวจีนได้คิดวิธีการลอกตำราจากแผ่นหิน โดยนำกระดาษไปทาบบนแผ่นหิน
    แล้วเอาถ่าน หรือสีทา
ค.ศ. 400
    ชาวจีนได้ทำหมึกจากเขม่าไฟ ซึ่งก่อนหน้านั้น อียิปต์ได้รู้จักการทำหมึกจากถ่าน
    และแป้งเปียก ในขณะที่จีนใช้เขม่าไฟ และกาวจากกระดูก หนัง และเขาสัตว์
    ทำให้คุณภาพของหมึกดีกว่า
ค.ศ. 450
    จีนรู้จักการพิมพ์ตรายางบนกระดาษ โดยนำตรามาแกะบนวัสดุ เช่น ไม้ หิน ฯลฯ
    แล้วจุ่มหมึกเพื่อตีบนกระดาษ
ค.ศ. 575
    จีนรู้จักการพิมพ์ยันต์ด้วยบล็อกไม้ (wood block printing)
ค.ศ. 650
    เป็นช่วงที่พุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้าไปในจีน มีพระสงฆ์สร้างพระโดยการพิมพ์
    ลงบนผ้าโดยใช้วิธีการถูบนหิน (stone rubbing) บ้าง พิมพ์ด้วยบล็อกไม้บ้าง
ค.ศ. 700-900
    ญี่ปุ่นในยุคของพระจักรพรรดิ์ โชโตกุ ได้สร้าง Dharant โดยพิมพ์ลงบนกระดาษ
    ที่ทำจากปอ และถือเป็นสิ่งพิมพ์ชิ้นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุด
ค.ศ. 770
    อิตาลี ได้มีการออกจดหมายข่าว News Letter เพื่อใช้แวดวงทางการค้า
ค.ศ. 868
    ชาวจีนชื่อ วางเชีย (Wang Chieh) จัดพิมพ์ วัชรสูตร เป็นหนังสือพิมพ์ขนาด
    กว้าาง 10.5 นิ้ว ยาว 17.5 ฟุต มีลักษณะเป็นม้วน ใช้การพิมพ์แบบบล็อก (block type)
ค.ศ. 972
    จัดพิมพ์พระไตรปิฏกฉบับภาษาจีน มีจำนวนหน้าถึง 130,000 หน้า
ค.ศ. 1041-1049
    ชาวจีนชื่อ ไปเช็ง (Pi Cheng) ได้ริเริ่มวิธีการพิมพ์โดยการเรียงพิมพ์เป็นตัวๆ
    ที่เรียกกันว่า Movable Type Printing ซึ่งตัวพิมพ์ทำมาจากดินหนียวแกะเป็น
    รูปตัวพิมพ์ แล้วนำไปเผาไฟ (ราวๆ ยุคราชวงศ์ถัง)
ค.ศ. 1390
    เกาหลี ได้ริเริ่มหล่อตัวพิมพ์ด้วยโลหะ
ค.ศ. 1423
    การพิมพ์ด้วยบล็อกไม้ เริ่มแพร่หลายในแถบยุโรป และหลังจากนั้นราว 2 ปี
    การพิมพ์ก็เริ่มเจริญเติบโตไปทั่วทุกมุมโลก โดยมีการปรับปรุงตัวพิมพ์ วิธีการพิมพ์
    และสร้างแท่นพิมพ์ขึ้นมาในแบบต่างๆ ทำให้การพิมพ์สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ค.ศ. 1454
    ณ เมือง Mainz ประเทศฝรั่งเศส ได้มีการผลิตพิมพ์แท่นแรกขึ้นที่สามารถพิมพ์ได้
   ครั้งละมากๆ ผลิตขึ้นโดย John Gutenberg
ค.ศ. 1620
    อังกฤษออกตีพิมพ์ Amsterdam
ค.ศ. 1622
    อังกฤษออกหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ Weekly News โดย Nicholas Browne
    และ Thomas Arche (อ้างอิงจาก Maurice Leuinson & Brent Sadler :
   On A Newspaper
, Wayland Publishers Ltd., 1973. p.14)